กลับมาพบกันอีกครั้งกับครูเก่งนะครับ! หลังจากที่เราได้วางแผนภาพรวมและพิชิตภาค ก กันไปแล้ว (ใครยังไม่ได้อ่าน คลิกที่นี่: [ลิงก์ไปยังบทความภาพรวม]) คราวนี้เราจะมาเจาะเกราะข้อสอบส่วนที่ถือเป็น “หัวใจของความเป็นครู” นั่นก็คือ การสอบครูผู้ช่วย ภาค ข: มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ นั่นเองครับ

ภาค ข คือสมรภูมิ 200 คะแนนเต็มที่วัดว่าเรามีความรู้ความสามารถพร้อมจะเป็น “ครูมืออาชีพ” จริงๆ หรือไม่ บอกเลยว่าส่วนนี้แหละครับที่จะชี้วัดและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างแท้จริง ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูโครงสร้างและกลยุทธ์การเตรียมตัวกันเลย!
ทำไม “ภาค ข” ถึงเป็นตัวตัดสินที่แท้จริง?
ในขณะที่ภาค ก วัดความเป็นข้าราชการที่ดี ภาค ข จะวัด “จิตวิญญาณและองค์ความรู้ของครู” โดยตรง คะแนนในส่วนนี้สะท้อนถึง:
- ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชา ที่คุณจะนำไปสอนเด็กๆ
- ความเข้าใจในศาสตร์การสอน ว่าจะถ่ายทอดความรู้ให้น่าสนใจและมีประสิทธิภาพได้อย่างไร
- ความรอบรู้ในกฎระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานในโรงเรียน
ดังนั้น การทุ่มเทให้กับภาค ข จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดครับ
ผ่าโครงสร้าง 200 คะแนนเต็มของ ภาค ข
ข้อสอบภาค ข แบ่งออกเป็น 3 ส่วนย่อยที่ต้องวางแผนการอ่านให้ดี มาดูกันทีละส่วนครับ
ส่วนที่ 1: มาตรฐานความรู้ในเนื้อหาวิชาที่สอน (วิชาเอก) (100 คะแนน)
นี่คือส่วนที่ สำคัญที่สุด มีสัดส่วนคะแนนถึง 50% ของภาค ข เลยทีเดียว! การเป็นครูจะสอนได้ดีก็ต้องมีความรู้ในเรื่องที่จะสอนอย่างลึกซึ้งเสียก่อน
แนวทางเตรียมตัว:
- ทบทวนเนื้อหาระดับมหาวิทยาลัย: อย่าอ่านแค่เนื้อหา ม.ปลาย ต้องกลับไปทบทวนความรู้ที่เรียนมาในระดับปริญญาตรีทั้งหมด เพราะข้อสอบมักจะวัดความเข้าใจในเชิงลึก
- วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางฯ 51: เชื่อมโยงความรู้เชิงลึกของคุณเข้ากับมาตรฐานและตัวชี้วัดของระดับชั้นที่เกี่ยวข้องกับวิชาเอกของคุณให้ได้
- ฝึกทำโจทย์เก่าและข้อสอบเฉพาะทาง: หาแนวข้อสอบของวิชาเอกตัวเองมาฝึกฝนให้มากที่สุด เพื่อจับแนวทางและประเด็นที่มักจะออกสอบ
- ติดตามข่าวสารทางวิชาการ: วงการวิชาการของสาขาคุณมีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นบ้าง บางครั้งอาจถูกนำมาเป็นข้อสอบได้
ส่วนที่ 2: มาตรฐานความรู้ทั่วไปในการจัดการเรียนการสอน (75 คะแนน)
ส่วนนี้คือ “ศาสตร์ความเป็นครู” ที่จะเปลี่ยนผู้รู้ให้กลายเป็น “ผู้สอน” ที่ดีได้ ประกอบด้วยหัวใจหลัก 5 ด้าน:
- หลักสูตรและการพัฒนาหลักสูตร: ทำความเข้าใจหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 และแนวทางการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา
- จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว: ทฤษฎีพัฒนาการ (Piaget, Vygotsky), ทฤษฎีการเรียนรู้, จิตวิทยาวัยรุ่น, และบทบาทครูแนะแนว
- การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน: รู้จักรูปแบบการสอนต่างๆ (Active Learning, PBL), การสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนเชิงบวก, การแก้ปัญหาในชั้นเรียน
- การวัดและประเมินผลการศึกษา: การสร้างข้อสอบ, การวัดผลตามสภาพจริง (Authentic Assessment), การประเมินเพื่อพัฒนา (Formative) และเพื่อตัดสิน (Summative)
- นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลทางการศึกษา: การใช้สื่อและเทคโนโลยีเพื่อการสอน, แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Google Classroom, การเป็นพลเมืองดิจิทัล (Digital Citizenship)
ส่วนที่ 3: ความรอบรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้องและการปฏิรูปการศึกษา (25 คะแนน)
แม้คะแนนจะไม่เยอะ แต่ก็ทิ้งไม่ได้เด็ดขาด ส่วนนี้จะเน้นกฎหมายที่ครูต้องใช้ในการปฏิบัติงานโดยตรง ซึ่งจะแตกต่างจากกฎหมายในภาค ก เล็กน้อย
- พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
- พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
- พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก
- พ.ร.บ. การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ
- นโยบายและทิศทางการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ
กลยุทธ์พิชิต ภาค ข ฉบับครูเก่ง
- “วิชาเอกต้องยืนหนึ่ง”: จัดสรรเวลาในการอ่านวิชาเอกให้มากที่สุด อาจจะเป็น 50-60% ของเวลาเตรียมตัวภาค ข ทั้งหมด
- “วิชาชีพครูต้องรอบด้าน”: ใช้วิธีอ่านและทำ Mind Map สรุปในแต่ละหัวข้อ จะช่วยให้จดจำและเชื่อมโยงเนื้อหาได้ดีขึ้น
- “กฎหมายต้องเก็บเต็ม”: แม้คะแนนจะน้อย แต่เนื้อหาค่อนข้างตายตัวและตรงไปตรงมา เป็นส่วนที่ควรเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด
- เชื่อมโยงศาสตร์เข้าหากัน: ลองคิดเสมอว่า “เราจะนำความรู้จิตวิทยามาใช้ในการสอนวิชาเอกของเราได้อย่างไร?” หรือ “เราจะวัดผลเรื่องนี้ด้วยวิธีไหนได้บ้าง?” การคิดแบบนี้จะทำให้คุณเข้าใจเนื้อหาอย่างแท้จริง
บทสรุป
ภาค ข คือด่านทดสอบความเป็นครูที่เข้มข้นที่สุด แต่ก็เป็นโอกาสให้เราได้ทบทวนและแสดงศักยภาพในวิชาชีพที่เรารักอย่างเต็มที่ การวางแผนที่ดี การจัดลำดับความสำคัญของเนื้อหา และความมีวินัยในการอ่าน จะนำพาทุกคนไปสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอนครับ