ข้อสอบความรู้การตัดต่อวิดีโอ 30 ข้อ พร้อมเฉลยละเอียด

ส่วนที่ 1: พื้นฐานการตัดต่อ (ข้อ 1-10)

  1. ข้อใดคือขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดในการเริ่มต้นตัดต่อวิดีโอ
    • ก. การเลือกเพลงประกอบที่เหมาะสม
    • ข. การเขียนสคริปต์ (Script)
    • ค. การนำเข้าไฟล์วิดีโอ (Importing)
    • ง. การปรับสีและแสงของคลิป
    คำตอบที่ถูกต้อง: ค. การนำเข้าไฟล์วิดีโอ (Importing) คำอธิบาย: ขั้นตอนแรกของการตัดต่อทุกครั้งคือการนำไฟล์วิดีโอ, ภาพ, และเสียงเข้ามาในโปรแกรม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำงาน
  2. ในโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ คำว่า “Timeline” หมายถึงอะไร
    • ก. แถบแสดงสถานะการเรนเดอร์ (Rendering)
    • ข. พื้นที่สำหรับจัดเรียงและตัดต่อคลิป
    • ค. หน้าต่างแสดงผลวิดีโอแบบเรียลไทม์
    • ง. กล่องเก็บไฟล์ที่นำเข้า
    คำตอบที่ถูกต้อง: ข. พื้นที่สำหรับจัดเรียงและตัดต่อคลิป คำอธิบาย: Timeline คือหัวใจของการตัดต่อ เป็นพื้นที่ที่เราจะนำคลิปมาเรียงต่อกัน ตัดส่วนที่ไม่ต้องการออก และเพิ่มองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น เสียงและตัวอักษร
  3. การใช้เทคนิค “J-Cut” และ “L-Cut” มีวัตถุประสงค์หลักเพื่ออะไร
    • ก. เพื่อเปลี่ยนอัตราส่วนภาพ (Aspect Ratio)
    • ข. เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับการเปลี่ยนฉาก (Transitions)
    • ค. เพื่อสร้างความลื่นไหลในการเชื่อมต่อเสียงและภาพ
    • ง. เพื่อย่อขนาดไฟล์วิดีโอให้เล็กลง
    คำตอบที่ถูกต้อง: ค. เพื่อสร้างความลื่นไหลในการเชื่อมต่อเสียงและภาพ คำอธิบาย: J-Cut คือการที่เสียงของฉากถัดไปดังขึ้นก่อนภาพจะมา ส่วน L-Cut คือการที่เสียงของฉากปัจจุบันยังคงอยู่แม้ภาพจะเปลี่ยนไปแล้ว เทคนิคทั้งสองช่วยให้การเล่าเรื่องต่อเนื่องและดูเป็นธรรมชาติ
  4. “อัตราส่วนภาพ” (Aspect Ratio) ที่ใช้กันมากที่สุดสำหรับวิดีโอแนวนอนคือข้อใด
    • ก. 9:16
    • ข. 4:3
    • ค. 16:9
    • ง. 1:1
    คำตอบที่ถูกต้อง: ค. 16:9 คำอธิบาย: อัตราส่วน 16:9 เป็นมาตรฐานสำหรับวิดีโอ Full HD และ 4K ซึ่งเหมาะกับการรับชมบนจอคอมพิวเตอร์และทีวี ในขณะที่ 9:16 เหมาะสำหรับวิดีโอแนวตั้งบนโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok หรือ Reels
  5. หากต้องการลบส่วนที่ไม่ต้องการของคลิปออก ควรใช้เครื่องมือใดในโปรแกรมตัดต่อ
    • ก. Zoom Tool
    • ข. Razor Tool (เครื่องมือใบมีด)
    • ค. Hand Tool
    • ง. Pen Tool
    คำตอบที่ถูกต้อง: ข. Razor Tool (เครื่องมือใบมีด) คำอธิบาย: Razor Tool หรือ Blade Tool ใช้สำหรับตัดแยกคลิปออกเป็นส่วน ๆ จากนั้นจึงสามารถลบส่วนที่ไม่ต้องการออกได้ง่าย
  6. “Frame Rate” หมายถึงอะไรในการตัดต่อวิดีโอ
    • ก. จำนวนเฟรมต่อวินาที
    • ข. ความเร็วในการเรนเดอร์วิดีโอ
    • ค. ขนาดของเฟรมภาพ
    • ง. อัตราส่วนของภาพ
    คำตอบที่ถูกต้อง: ก. จำนวนเฟรมต่อวินาที คำอธิบาย: Frame Rate หรือ FPS (Frames Per Second) คือจำนวนภาพนิ่งที่แสดงในหนึ่งวินาที ยิ่ง Frame Rate สูง ภาพเคลื่อนไหวจะยิ่งดูสมูท
  7. “Codec” คืออะไรในบริบทของไฟล์วิดีโอ
    • ก. โปรแกรมตัดต่อวิดีโอชนิดหนึ่ง
    • ข. โค้ดที่ใช้สำหรับบีบอัดและคลายข้อมูลวิดีโอ
    • ค. ชื่อเรียกของไฟล์วิดีโอที่ใช้ร่วมกับเสียง
    • ง. ไฟล์ที่เก็บข้อมูลการตั้งค่าโปรเจกต์
    คำตอบที่ถูกต้อง: ข. โค้ดที่ใช้สำหรับบีบอัดและคลายข้อมูลวิดีโอ คำอธิบาย: Codec (Compressor/Decompressor) คือชุดคำสั่งที่ใช้ในการเข้ารหัสและถอดรหัสข้อมูลวิดีโอ ทำให้ไฟล์มีขนาดเล็กลง
  8. เครื่องมือที่ใช้สำหรับปรับระดับเสียงของคลิปใน Timeline เรียกว่าอะไร
    • ก. Keyframe
    • ข. Ripple Edit Tool
    • ค. Pen Tool
    • ง. Audio Mixer
    คำตอบที่ถูกต้อง: ง. Audio Mixer คำอธิบาย: Audio Mixer เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการควบคุมระดับเสียงของแต่ละแทร็กเสียง เพื่อให้เสียงทั้งหมดมีความสมดุลและลงตัว
  9. หากต้องการแก้ไขสีและแสงของคลิปวิดีโอ ควรใช้เครื่องมือใด
    • ก. Color Grading หรือ Color Correction
    • ข. Time Remapping
    • ค. Stabilizer
    • ง. Chroma Key
    คำตอบที่ถูกต้อง: ก. Color Grading หรือ Color Correction คำอธิบาย: Color Correction คือการปรับสีให้ถูกต้องตามความเป็นจริง ส่วน Color Grading คือการใส่โทนสีเพื่อสร้างอารมณ์และสไตล์ให้กับวิดีโอ
  10. การเรนเดอร์ (Rendering) วิดีโอคือขั้นตอนใด
    • ก. การนำเข้าไฟล์วิดีโอ
    • ข. การบันทึกงานระหว่างการตัดต่อ
    • ค. การประมวลผลวิดีโอเพื่อส่งออกเป็นไฟล์สุดท้าย
    • ง. การซิงค์เสียงกับภาพวิดีโอ
    คำตอบที่ถูกต้อง: ค. การประมวลผลวิดีโอเพื่อส่งออกเป็นไฟล์สุดท้าย คำอธิบาย: Rendering คือกระบวนการที่โปรแกรมใช้ในการประมวลผลข้อมูลทั้งหมดที่ตัดต่อ เพื่อสร้างเป็นไฟล์วิดีโอฉบับสมบูรณ์

ส่วนที่ 2: โปรแกรมและเครื่องมือ (ข้อ 11-20)

  1. โปรแกรมใดที่นิยมใช้ในการตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ และเป็นมาตรฐานในวงการ
    • ก. Microsoft Photos
    • ข. Adobe Premiere Pro
    • ค. Canva
    • ง. CapCut
    คำตอบที่ถูกต้อง: ข. Adobe Premiere Pro คำอธิบาย: Adobe Premiere Pro เป็นหนึ่งในโปรแกรมตัดต่อที่ทรงพลังและได้รับความนิยมสูงสุดในวงการมืออาชีพ
  2. “Keyframes” ในการตัดต่อวิดีโอมีหน้าที่อะไร
    • ก. ใช้สำหรับใส่ตัวอักษร
    • ข. ใช้ในการกำหนดจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของเอฟเฟกต์
    • ค. ใช้สำหรับลบคลิปที่ไม่ต้องการ
    • ง. ใช้สำหรับปรับความเร็วของวิดีโอให้เป็น Slow Motion เท่านั้น
    คำตอบที่ถูกต้อง: ข. ใช้ในการกำหนดจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของเอฟเฟกต์ คำอธิบาย: Keyframes ช่วยให้เราสามารถกำหนดค่าต่าง ๆ เช่น ตำแหน่ง, ขนาด, หรือความทึบแสงของวัตถุในช่วงเวลาที่แตกต่างกันได้ ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวแบบแอนิเมชัน
  3. หากต้องการตัดต่อวิดีโอที่ถ่ายด้วยกล้องหลายตัวพร้อมกันในเหตุการณ์เดียว ควรใช้เครื่องมือใด
    • ก. Stabilizer
    • ข. Multi-Camera Editing
    • ค. Time Remapping
    • ง. Chroma Key
    คำตอบที่ถูกต้อง: ข. Multi-Camera Editing คำอธิบาย: Multi-Camera Editing เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้การตัดต่อจากฟุตเทจหลายกล้องพร้อมกันเป็นเรื่องง่าย ทำให้การสลับมุมมองภาพทำได้อย่างรวดเร็ว
  4. การใส่เอฟเฟกต์ “Green Screen” หรือ “Blue Screen” ใช้เทคนิคใดในโปรแกรมตัดต่อ
    • ก. Motion Tracking
    • ข. Speed Ramping
    • ค. Chroma Key
    • ง. Nested Sequence
    คำตอบที่ถูกต้อง: ค. Chroma Key คำอธิบาย: Chroma Key คือเทคนิคที่ใช้ในการลบพื้นหลังที่มีสีเดียว (เช่น สีเขียวหรือสีน้ำเงิน) เพื่อแทนที่ด้วยภาพหรือวิดีโออื่น ๆ
  5. ในโปรแกรม Premiere Pro “Project Panel” มีหน้าที่อะไร
    • ก. แสดงผลวิดีโอที่กำลังตัดต่อ
    • ข. จัดเก็บไฟล์ที่นำเข้ามาทั้งหมด
    • ค. เป็นพื้นที่สำหรับจัดการ Transition
    • ง. แสดงประวัติการทำงานย้อนหลัง
    คำตอบที่ถูกต้อง: ข. จัดเก็บไฟล์ที่นำเข้ามาทั้งหมด คำอธิบาย: Project Panel เป็นเหมือนคลังเก็บของ ที่ใช้สำหรับจัดระเบียบไฟล์วิดีโอ, ภาพ, และเสียงทั้งหมดที่ใช้ในโปรเจกต์
  6. ข้อใดคือความแตกต่างหลักระหว่าง Transition และ Effect
    • ก. Transition ใช้เปลี่ยนฉาก ส่วน Effect ใช้ปรับแต่งภาพในฉาก
    • ข. Transition เป็นเอฟเฟกต์เฉพาะเสียง ส่วน Effect เป็นเอฟเฟกต์เฉพาะภาพ
    • ค. Transition ใช้ได้แค่กับวิดีโอเท่านั้น ส่วน Effect ใช้ได้ทั้งภาพและวิดีโอ
    • ง. Transition ต้องซื้อเพิ่ม ส่วน Effect มีมาให้ในโปรแกรม
    คำตอบที่ถูกต้อง: ก. Transition ใช้เปลี่ยนฉาก ส่วน Effect ใช้ปรับแต่งภาพในฉาก คำอธิบาย: Transition คือการเชื่อมต่อระหว่างสองคลิป ส่วน Effect คือการเปลี่ยนแปลงลักษณะของคลิปใดคลิปหนึ่ง
  7. การตัดต่อวิดีโอแบบ “Short-form content” เช่น TikTok หรือ Instagram Reels นิยมใช้โปรแกรมใดมากที่สุด
    • ก. Adobe After Effects
    • ข. CapCut
    • ค. DaVinci Resolve
    • ง. Blender
    คำตอบที่ถูกต้อง: ข. CapCut คำอธิบาย: CapCut ได้รับความนิยมอย่างสูงสำหรับการสร้างวิดีโอสั้น เพราะมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การสร้างคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย
  8. หากต้องการสร้างกราฟิกเคลื่อนไหว (Motion Graphics) หรือ Visual Effects ที่ซับซ้อน ควรใช้โปรแกรมใดเป็นหลัก
    • ก. Adobe Premiere Pro
    • ข. Final Cut Pro
    • ค. Adobe After Effects
    • ง. iMovie
    คำตอบที่ถูกต้อง: ค. Adobe After Effects คำอธิบาย: Adobe After Effects เป็นโปรแกรมเฉพาะทางที่เน้นการสร้าง Motion Graphics และ Visual Effects โดยเฉพาะ ทำให้สามารถสร้างสรรค์วิดีโอที่มีความพิเศษได้
  9. ในโปรแกรมตัดต่อ “Proxy” มีประโยชน์อย่างไร
    • ก. ช่วยในการทำความสะอาดไฟล์ขยะ
    • ข. เป็นไฟล์วิดีโอขนาดเล็กที่ใช้สำหรับตัดต่อแทนไฟล์ต้นฉบับ
    • ค. เป็นเครื่องมือสำหรับซ่อมแซมคลิปที่เสียหาย
    • ง. เป็นฟังก์ชันที่ช่วยสร้างวิดีโอฉบับร่างอย่างรวดเร็ว
    คำตอบที่ถูกต้อง: ข. เป็นไฟล์วิดีโอขนาดเล็กที่ใช้สำหรับตัดต่อแทนไฟล์ต้นฉบับ คำอธิบาย: Proxy คือไฟล์วิดีโอที่มีความละเอียดต่ำกว่าไฟล์ต้นฉบับมาก ช่วยให้การตัดต่อลื่นไหลขึ้น โดยเฉพาะเมื่อทำงานกับไฟล์วิดีโอ 4K หรือ 8K
  10. “Audio Ducking” ในโปรแกรมตัดต่อเสียงมีหน้าที่อะไร
    • ก. ทำให้เสียงเบาลงอย่างรวดเร็ว
    • ข. ปรับเสียงเพลงให้เบาลงอัตโนมัติเมื่อมีเสียงพูด
    • ค. เพิ่มเสียงเบสให้เพลง
    • ง. ลบเสียงรบกวนออกจากวิดีโอ
    คำตอบที่ถูกต้อง: ข. ปรับเสียงเพลงให้เบาลงอัตโนมัติเมื่อมีเสียงพูด คำอธิบาย: Audio Ducking เป็นเทคนิคที่ช่วยให้เสียงพูดเด่นขึ้น โดยการลดระดับเสียงเพลงประกอบลงอัตโนมัติเมื่อมีเสียงพูดเข้ามา

ส่วนที่ 3: เทคนิคและศัพท์เฉพาะ (ข้อ 21-30)

  1. การสร้าง “Slow Motion” ที่ลื่นไหลและดูเป็นธรรมชาติ ควรใช้ Footage ที่มี Frame Rate เท่าใด
    • ก. 24 fps
    • ข. 30 fps
    • ค. 60 fps ขึ้นไป
    • ง. 15 fps
    คำตอบที่ถูกต้อง: ค. 60 fps ขึ้นไป คำอธิบาย: การใช้ Footage ที่มี Frame Rate สูง (High Frame Rate) จะช่วยให้เราสามารถลดความเร็วของคลิปได้โดยยังคงความลื่นไหลของภาพไว้ได้
  2. “B-Roll” หมายถึงอะไรในการตัดต่อวิดีโอ
    • ก. ฟุตเทจหลักของเรื่องราว
    • ข. ฟุตเทจเสริมที่ใช้เล่าเรื่องเพิ่มเติม
    • ค. คลิปวิดีโอที่ใช้สำหรับตอนจบ
    • ง. คลิปวิดีโอที่มีคุณภาพต่ำ
    คำตอบที่ถูกต้อง: ข. ฟุตเทจเสริมที่ใช้เล่าเรื่องเพิ่มเติม คำอธิบาย: B-Roll คือฟุตเทจรองที่ใช้เสริมการเล่าเรื่องของ A-Roll (ฟุตเทจหลัก) เช่น ฟุตเทจบรรยากาศ เพื่อให้วิดีโอไม่น่าเบื่อ
  3. “Jump Cut” เป็นเทคนิคการตัดต่อที่ใช้เพื่ออะไร
    • ก. เพื่อเปลี่ยนฉากให้ดูสวยงาม
    • ข. เพื่อทำให้เวลาในวิดีโอสั้นลงอย่างรวดเร็ว
    • ค. เพื่อซ่อนรอยต่อของภาพ
    • ง. เพื่อทำให้ภาพดูนิ่งขึ้น
    คำตอบที่ถูกต้อง: ข. เพื่อทำให้เวลาในวิดีโอสั้นลงอย่างรวดเร็ว คำอธิบาย: Jump Cut คือการตัดภาพจากคลิปเดียวกันในมุมมองเดียวกัน แต่เป็นคนละช่วงเวลา ทำให้ดูเหมือนภาพกระโดด เหมาะกับการตัดต่อวิดีโอที่ต้องการความกระชับ
  4. การแก้ไขวิดีโอที่สั่นไหวให้ดูนิ่งขึ้น ควรใช้เครื่องมือใด
    • ก. Time Remapping
    • ข. Stabilizer หรือ Warp Stabilizer
    • ค. Multi-Camera Editing
    • ง. Chroma Key
    คำตอบที่ถูกต้อง: ข. Stabilizer หรือ Warp Stabilizer คำอธิบาย: เครื่องมือ Stabilizer มีหน้าที่ในการวิเคราะห์ภาพและปรับแต่งเพื่อให้วิดีโอดูมั่นคงและไม่สั่นไหว
  5. “Resolution” 4K หรือ Ultra HD หมายถึงอะไร
    • ก. ขนาดภาพ 1080p
    • ข. ขนาดภาพที่มีความละเอียดประมาณ 4,000 พิกเซลในแนวนอน
    • ค. ขนาดภาพที่มีความละเอียด 400 พิกเซล
    • ง. ความคมชัดของภาพที่ลดลง
    คำตอบที่ถูกต้อง: ข. ขนาดภาพที่มีความละเอียดประมาณ 4,000 พิกเซลในแนวนอน คำอธิบาย: Resolution 4K มีขนาดประมาณ 3840 x 2160 พิกเซล ซึ่งมีความคมชัดสูงกว่า Full HD (1920 x 1080) ถึงสี่เท่า
  6. หากต้องการจัดลำดับวิดีโอและเสียงให้สอดคล้องกันพอดี ควรใช้เทคนิคใด
    • ก. Speed Ramping
    • ข. Syncing Audio and Video
    • ค. Nesting
    • ง. Proxy
    คำตอบที่ถูกต้อง: ข. Syncing Audio and Video คำอธิบาย: การซิงค์เสียงและวิดีโอเป็นกระบวนการที่ทำให้เสียงที่บันทึกแยกต่างหากมาตรงกับภาพที่ถ่ายไว้
  7. “Time Remapping” หรือ “Speed Ramping” มีหน้าที่อะไร
    • ก. การย้อนกลับวิดีโอ
    • ข. การปรับความเร็วของวิดีโอในแต่ละช่วงเวลา
    • ค. การเรนเดอร์วิดีโอให้เร็วขึ้น
    • ง. การย่อขนาดไฟล์วิดีโอ
    คำตอบที่ถูกต้อง: ข. การปรับความเร็วของวิดีโอในแต่ละช่วงเวลา คำอธิบาย: Time Remapping ช่วยให้เราสามารถเพิ่มหรือลดความเร็วของวิดีโอได้ในคลิปเดียว เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ที่น่าสนใจ เช่น การเปลี่ยนจาก Slow Motion เป็น Fast Motion อย่างรวดเร็ว
  8. การจัดระเบียบไฟล์โดยการสร้าง “Bin” หรือ “Folder” ในโปรแกรมตัดต่อมีประโยชน์อย่างไร
    • ก. ทำให้โปรแกรมทำงานได้เร็วขึ้น
    • ข. ป้องกันไฟล์เสียหาย
    • ค. ช่วยให้ค้นหาและจัดการไฟล์ได้ง่าย
    • ง. ทำให้ไฟล์มีขนาดเล็กลง
    คำตอบที่ถูกต้อง: ค. ช่วยให้ค้นหาและจัดการไฟล์ได้ง่าย คำอธิบาย: การสร้าง Bin หรือ Folder เพื่อจัดหมวดหมู่ไฟล์ เช่น “ฟุตเทจ”, “เพลง”, “เสียงประกอบ” ช่วยให้เวิร์กโฟลว์การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  9. “Exporting” หรือการส่งออกไฟล์วิดีโอ มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งใด
    • ก. การบันทึกโปรเจกต์
    • ข. การนำเข้าไฟล์ใหม่
    • ค. การเลือก Codec และ Resolution สำหรับไฟล์สุดท้าย
    • ง. การสร้างข้อสอบออนไลน์
    คำตอบที่ถูกต้อง: ค. การเลือก Codec และ Resolution สำหรับไฟล์สุดท้าย คำอธิบาย: ขั้นตอน Exporting เป็นการเลือกการตั้งค่าสุดท้ายของวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นขนาดไฟล์, ความละเอียด, และประเภทของไฟล์
  10. สิ่งที่สำคัญที่สุดในการตัดต่อวิดีโอคืออะไร
    • ก. การใช้โปรแกรมที่แพงที่สุด
    • ข. การใส่เอฟเฟกต์ให้เยอะที่สุด
    • ค. การใช้เทคนิคขั้นสูงทั้งหมด
    • ง. การเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจและสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    คำตอบที่ถูกต้อง: ง. การเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจและสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ คำอธิบาย: ไม่ว่าคุณจะใช้โปรแกรมหรือเทคนิคใดก็ตาม หัวใจสำคัญของการตัดต่อวิดีโอคือการสร้างเรื่องราวที่สามารถสื่อสารและเข้าถึงผู้ชมได้
Scroll to Top